ยกระดับ Performance Management สู่การขับเคลื่อนองค์กรในยุคปัจจุบัน
ในโลกของการทำงานปัจจุบันควรให้ความสำคัญกับ Performance Management สู่การเปลี่ยนแปลงเพื่อขับเคลื่อนองค์กร
การบริหารผลการปฏิบัติงาน เป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยให้ทั้งองค์กรและพนักงานสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเน้นการตั้งเป้าหมายที่ชัดเจน การติดตามผลอย่างต่อเนื่อง และการให้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนา
ในยุคที่ธุรกิจองค์กรต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การบริหารประสิทธิภาพการทำงาน ไม่ใช่แค่การประเมินผลเป็นช่วงเวลาเท่านั้น แต่เป็นกระบวนการที่ดำเนินอย่างต่อเนื่องเพื่อพัฒนาและปรับปรุงศักยภาพของพนักงานให้สอดคล้องกับเป้าหมายองค์กร การใช้กลยุทธ์ที่เหมาะสม เช่น การตั้งเป้าหมายแบบ SMART Goals และการนำเทคโนโลยีเข้ามาช่วย สามารถทำให้กระบวนการนี้มีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากขึ้น
Performance Management ที่ดีไม่ได้มุ่งเน้นแค่ผลลัพธ์สุดท้าย แต่ให้ความสำคัญกับกระบวนการพัฒนา สร้างแรงจูงใจ ส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ และช่วยให้พนักงานมีส่วนร่วมในการเติบโตไปพร้อมกับองค์กร
บริหารจัดการประสิทธิภาพการทำงานได้อย่างไร
ในมุมมองของ HR ได้อธิบายกระบวนการที่ผู้จัดการให้ข้อเสนอต่อพนักงานที่รายงานตรง เพื่อให้แน่ใจว่า การทำงานของพนักงานสอดคล้องกับเป้าหมายขององค์กร แม้ว่าหลายคนจะเชื่อมโยงการทำงาน เข้ากับการประเมินผลการทำงานประจำปี แต่ในความเป็นจริง การจัดการประสิทธิภาพทำงานนี้ประกอบด้วยกระบวนการหลายอย่างที่วัดและพัฒนาผลการทำงานได้ ประสิทธิภาพการทำงานเป็นสภาวะที่เปลี่ยนแปลงได้ และแผนการจัด การทำงานของคุณก็ควรมีความยืดหยุ่นเช่นกัน
What is Performance Management illustrated in 5 sections.
กระบวนการและระบบที่มุ่งเน้นการพัฒนาพนักงาน เพื่อให้พวกเขาสามารถทำงานได้อย่างเต็มศักยภาพ และช่วยขับเคลื่อนองค์กรให้บรรลุเป้าหมายเชิงกลยุทธ์
✅ เตรียมความพร้อมทักษะของพนักงานสำหรับอนาคต
✅ เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน
✅ เพิ่มอัตราการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรนานขึ้น
✅ สร้างวัฒนธรรมของการให้ฟีดแบ็กและความไว้วางใจ
✅ ยกระดับประสิทธิภาพขององค์กร
แนวคิดหลักในการบริหารจัดการประสิทธิภาพการทำงาน
Measuring Work Performance: ประเมินและวัดผลการทำงานของพนักงานย้อนหลังในระยะเวลาที่กำหนด มักเกี่ยวข้องกับการประเมินผลการทำงานแบบเดิมที่ทำปีละครั้ง
Improving Work Efficiency: มองไปข้างหน้าและมุ่งพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานในอนาคต โดยการสนับสนุนให้พนักงานพัฒนาจากจุดแข็งของตนเอง พร้อมกับการมองหาจุดที่มีโอกาสในการพัฒนา
Setting and Tracking Shared Goals: มีประสิทธิภาพการทำงานและต้องมีเป้าหมายร่วมกันอย่างชัดเจน ช่วยให้เรามีความมุ่งมั่นต่อความคาดหวัง แต่ไม่ใช่ทุกเป้าหมายที่สร้างขึ้นมาจะมีคุณภาพเท่ากัน เป้าหมายที่มีประสิทธิภาพจะกระตุ้นให้พนักงานมีความรับผิดชอบ ต่อสิ่งที่ลงมือทำ และการมีส่วนร่วมกันในการสร้างผลงาน
SMART Goals: เป้าหมายที่เป็นกระบวนการ ที่ทำร่วมกัน เพื่อเสริมพลังให้พนักงานได้กำหนดความคาดหวังและเป้าหมายของตนเอง
““การบริหารผลการปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับการยอมรับจุดแข็งของพนักงานและเปิดรับแนวคิดนวัตกรรม แม้กระทั่งแนวคิดที่เปลี่ยนแปลงสิ่งที่เป็นอยู่””
Accountability and Acceptance: เริ่มจากการตระหนักถึงบทบาทและหน้าที่ของตนเอง พร้อมรับผิดชอบต่อผลลัพธ์ของการทำงานอย่างจริงจัง การเปิดใจยอมรับทั้งความคิดเห็นเชิงบวก เพื่อการปรับปรุงจะช่วยเสริมสร้างความน่าเชื่อถือและพัฒนาศักยภาพในการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ที่สำคัญจะช่วยกระตุ้นทีมให้ทำงานให้ดีที่สุดต่อไป และสามารถรับรู้ถึงการทำงานอย่างหนักของพนักงานเองผ่านการเลื่อนตำแหน่ง การเพิ่มเงินเดือน โบนัส และโอกาสในการมีหน้าที่รับผิดชอบเพิ่มเติม
Coaching and Providing Feedback for Development:โค้ชและการให้ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาควรปฏิบัติด้วยความสร้างสรรค์และสร้างแรงจูงใจ เพื่อช่วยให้พนักงานมองเห็นจุดแข็งและโอกาสในการพัฒนาอย่างชัดเจน ควรเน้นการสื่อสารที่เปิดกว้าง ชัดเจน และเป็นไปในเชิงบวกเพื่อส่งเสริมการสร้างวัฒนธรรมการเรียนรู้และการเติบโตในองค์กรอย่างต่อเนื่อง
Enhancing the Performance Evaluation Process: การปรับปรุงกระบวนการประเมินประสิทธิภาพการทำงานควรเริ่มจากการกำหนดเกณฑ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรม ควรใช้ข้อมูลที่เป็นรูปธรรมและระบบติดตามผลอย่างต่อเนื่องเพื่อให้เกิดความโปร่งใส และควรมีการให้ข้อเสนอแนะที่สร้างสรรค์เพื่อช่วยให้พนักงานพัฒนาตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
การประเมินผลการทำงานเป็นสิ่งสำคัญ แต่การบริหารประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่องมีผลกระทบที่มากกว่า การเชื่อมโยงประสิทธิภาพกับการมีส่วนร่วมของพนักงานเป็นปัจจัยสำคัญในการพัฒนาองค์กร การลงทุนในแพลตฟอร์มที่เน้นประสบการณ์พนักงานช่วยปรับปรุงกระบวนการบริหารและส่งเสริม Growth Mindset ในที่ทำงาน
How does Trust & Performance relate?
ในวิดีโอ “Simon Sinek - Trust vs Performance (Must Watch!)” ไซมอน ซิเน็ค ได้กล่าวถึงความสำคัญของความไว้วางใจ (Trust) และประสิทธิภาพการทำงาน (Performance) ในการสร้างทีมที่มีประสิทธิภาพ เขาเน้นว่าหลายองค์กรให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานมากเกินไป โดยมองข้ามความไว้วางใจ ซึ่งอาจนำไปสู่สภาพแวดล้อมการทำงานที่เป็นพิษ ไซมอนแนะนำว่าองค์กรควรให้ความสำคัญกับการสร้างความไว้วางใจระหว่างสมาชิกในทีม เนื่องจากพนักงานที่มีความไว้วางใจสูงแม้ประสิทธิภาพการทำงานจะปานกลาง ก็สามารถมีส่วนร่วมในการสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่ดีและยั่งยืนได้ ในขณะที่พนักงานที่มีประสิทธิภาพสูงแต่ขาดความไว้วางใจ อาจทำลายบรรยากาศการทำงานและลดความร่วมมือในทีม ดังนั้น การสร้างสมดุลระหว่างความไว้วางใจและประสิทธิภาพการทำงานจึงเป็นสิ่งสำคัญในการพัฒนาองค์กรที่แข็งแกร่งและประสบความสำเร็จ