กรณีศึกษาจากลูกค้าที่ได้รับการรับรองเป็น Best Places to Work ในประเทศไทย

ผู้ใช้ที่เป็นแขก ผู้ใช้ที่เป็นแขก

Case Study: เส้นทางของ Siam Motors สู่การเป็น "Best Places to Work" – ก้าวสำคัญในการสร้างแบรนด์นายจ้าง

จุดเริ่มต้น

ด้วยประวัติการดำเนินงานที่ยาวนานกว่า 72 ปี สยามมอเตอร์สได้รับการยอมรับว่าเป็นองค์กรที่มั่นคงและมีชื่อเสียงในประเทศไทย แต่ชื่อเสียงขององค์กรไม่ได้มีแค่ความสำเร็จทางธุรกิจเท่านั้น แต่ยังสะท้อนความทุ่มเทและความมุ่งมั่นของพนักงาน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของความสำเร็จองค์กรอีกด้วย

ความร่วมมือระหว่าง Siam Motors กับ WorkVenture เพื่อรับรางวัล "Best Places to Work™" นับเป็นก้าวสำคัญในการสร้างแบรนด์นายจ้างที่ให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างแท้จริง ภายใต้แนวคิดที่ว่า "พนักงานที่มีความสุข นำไปสู่ประสิทธิภาพที่ดีขึ้น" คุณประกาสิทธิ์ พรประภา ประธานบริหารสูงสุด ได้ทุ่มเทเพื่อยกระดับประสบการณ์ของพนักงานเป็นลำดับแรก โดยมุ่งเน้นการส่งเสริมทั้งความเป็นอยู่ที่ดีและประสิทธิภาพการทำงานภายในองค์กร

ความท้าทายคือโอกาส

  1. ยุคใหม่ของผู้นำที่ให้ความสำคัญกับพนักงาน

    การสร้างวัฒนธรรมองค์กรแห่งการมีส่วนร่วมและความสัมพันธ์ของคนในองค์กร ได้กลายเป็นส่วนสำคัญของการเดินทางครั้งนี้ การปรับเปลี่ยนแนวทางการบริหารไปสู่วิธีที่เน้นการมีส่วนร่วมแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของสยามกลการในการรับฟังพนักงานอย่างแท้จริง ซึ่งสอดคล้องกับค่านิยมของคนทำงานในปัจจุบัน การเปลี่ยนแปลงนี้เปิดประตูสู่ความร่วมมือที่มากขึ้นและวัฒนธรรมที่ทุกคนรู้สึกมีคุณค่าและเป็นส่วนหนึ่งขององค์กร

  2. ความมุ่งมั่นของสยามมอเตอร์ในการเป็น "องค์กรในฝันของคนทำงาน"

    เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่เข้าสู่องค์กร สยามกลการได้สร้างแบรนด์นายจ้างโดยยึดหลักค่านิยมสำคัญต่างๆ เช่น ความหลงใหล (Passion) ความสามารถในการปรับตัว (Adaptability) และการมีส่วนร่วม (Contribution)ซึ่งตรงใจคนทำงานที่มองหาวิสัยทัศน์ที่สอดคล้องกันค่านิยมเหล่านี้สร้างความดึงดูดที่แข็งแกร่งและยั่งยืนสำหรับบุคลากรที่มีศักยภาพสูงเพื่อให้มั่นใจว่าองค์กรจะยังคงเป็นสถานที่ทำงานที่เป็นที่ต้องการในระยะยาว

สร้างแรงบันดาลใจผ่าน การรับรอง “Best Places to Work”

สยามกลการได้รับข้อมูลเชิงลึกจากผลสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน ผ่านการรับรอง "Best Places to Work™" ทำให้มองเห็นจุดแข็งและจุดที่ต้องปรับปรุงได้อย่างชัดเจน ข้อมูลเหล่านี้เป็นหัวใจสำคัญในการวางแผนกลยุทธ์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของพนักงาน สร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการสื่อสาร การร่วมมือ และความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของทีม

ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ไม่ได้เป็นประโยชน์แค่กับสยามกลการ แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้องค์กรอื่นๆ ในการสร้างแบรนด์นายจ้างที่น่าดึงดูดและร่วมกันสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่งและเกื้อหนุนกัน

ความสำเร็จจากการรับรอง "Best Places to Work™"

การรับรองให้เป็นสถานที่ทำงานที่ดีที่สุดไม่เพียงแต่ยืนยันถึงความเป็นเลิศของสยามมอเตอร์สในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานเชิงบวกเท่านั้น แต่ยังนำมาซึ่งผลประโยชน์ที่จับต้องได้ทั้งต่อบริษัทและพนักงานอีกด้วย:

  1. ส่งเสริมสถานที่ทำงานที่เปิดกว้างกับทุกคน

    มากกว่ารางวัล การรับรองนี้สะท้อนถึงความมุ่งมั่นของสยามกลการในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่พนักงานรู้สึกว่ามีคุณค่าและได้รับการสนับสนุนนอกจากนั้น Siam Motors ยังได้นำวิธี DEI&B (Diversity, Equity, Inclusion, and Belonging) มาใช้ เพื่อส่งเสริมการมีส่วนร่วมของวัฒนธรรมองค์กรทำให้มั่นใจได้ว่าพนักงานทุกคนมีเสียงและได้รับการสนับสนุนความเป็นตัวของตัวเอง

  2. จากวิสัยทัศน์สู่การกระทำ: การเป็น “นายจ้างแห่งทางเลือก”

    ด้วยรากฐานแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่ง ผ่านการรับรอง "Best Places to Work™" สยามกลการได้สร้างความภาคภูมิใจในหมู่พนักงาน ความสำเร็จได้เสริมสร้างวัฒนธรรมองค์กร และยังส่งเสริมให้พนักงานเป็นตัวแทนขององค์กร แบ่งปันคุณค่าและดึงดูดผู้มีความสามารถใหม่ๆ สยามกลการกำลังก้าวไปสู่การเป็นองค์กรที่ยืดหยุ่น สร้างแรงบันดาลใจ และเป็นที่ต้องการ โดยมุ่งมั่นในความเป็นอยู่ที่ดีและความสำเร็จในระยะยาวของพนักงาน


ด้วยวิสัยทัศน์ที่ชัดเจนในการสร้างวัฒนธรรมที่เน้นพนักงานเป็นศูนย์กลาง สยามกลการจึงนำเอาสภาพแวดล้อมการทำงานที่ยั่งยืนมาใช้เพื่อดึงดูดคนรุ่นใหม่ การรับรอง Best Places to Work เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น เนื่องจากสยามมอเตอร์สยังคงพัฒนาวัฒนธรรมที่รับฟังและให้ความสำคัญกับพนักงานอย่างต่อเนื่อง องค์กรจึงพร้อมที่จะขับเคลื่อนความสำเร็จไปพร้อมกับสร้างแรงบันดาลใจ ร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสร่วมกัน

พร้อมที่จะได้รับการรับรองและยกระดับแบรนด์นายจ้างของคุณไปอีกขั้นแล้วหรือยัง?

ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้น

อ่านเพิ่มเติม
ผู้ใช้ที่เป็นแขก ผู้ใช้ที่เป็นแขก

Case Study: ไทยออยล์ ขับเคลื่อนการเติบโตด้วยพลังแห่งความมุ่งมั่นและการมีส่วนร่วมกันของพนักงาน

จุดเริ่มต้น

ไทยออยล์ หรือที่รู้จักกันอย่างเป็นทางการในชื่อ บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นจากการเป็นโรงกลั่นน้ำมันเอกชนแห่งแรกของประเทศไทย ในช่วงหลายทศวรรษที่ผ่านมา ไทยออยล์ได้พัฒนาจนกลายเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ นอกเหนือจากการเติบโตทางธุรกิจที่โดดเด่นแล้ว ไทยออยล์ยังได้ขยายธุรกิจไปยังอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้อง เช่น ปิโตรเคมี การผลิตไฟฟ้า และการผลิตเอทานอล ซึ่งตอกย้ำความเป็นผู้นำในภาคพลังงาน

อย่างไรก็ตาม สิ่งที่ทำให้ไทยออยล์แตกต่างอย่างแท้จริงคือความมุ่งมั่นที่มีต่อพนักงาน บริษัทตระหนักดีว่าความสำเร็จที่ยั่งยืนไม่ได้วัดจากผลประกอบการเพียงอย่างเดียว แต่เกิดจากผู้คนที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า

"ภายใต้การนำของคุณบัณฑิต ธรรมประจำจิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ ซึ่งให้ความสำคัญกับการรับฟังเสียงของพนักงาน ไทยออยล์มุ่งมั่นสร้างสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเติบโต ความผูกพัน และความพึงพอใจของพนักงาน วิสัยทัศน์ที่ชัดเจนของเขาสะท้อนให้เห็นว่าที่ทำงานที่ดีเกิดจากการเข้าใจและให้ความสำคัญกับทุกคนในองค์กร เป้าหมายของไทยออยล์คือการทำให้พนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่า ซึ่งสะท้อนผ่านแนวคิดของบริษัท 'Your Value, Our Priority'"

เป้าหมาย

เพื่อก้าวสู่ความสำเร็จ กลุ่มบริษัทไทยออยล์มีเป้าหมายดังนี้

  1. การพัฒนากลยุทธ์ที่ตอบสนองความต้องการของพนักงานอย่างแท้จริง

    ไทยออยล์มุ่งเน้นในการสร้างสรรค์กลยุทธ์ที่ตอบสนองความต้องการของพนักงานอย่างแท้จริง โดยมุ่งหวังที่จะสร้างบรรยากาศการทำงานที่ทุกคนรู้สึกเป็นส่วนหนึ่ง

    ตั้งแต่ทีมปฏิบัติการไปจนถึงผู้บริหาร ไทยออยล์รับประกันว่าพนักงานทุกคนจะได้รับการสนับสนุนและความพึงพอใจที่สอดคล้องกับเป้าหมายส่วนตัวและอาชีพของพวกเขา

  2. การดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

    เป้าหมายสำคัญอีกประการหนึ่งของบริษัทไทยออยล์คือการดึงดูดบุคลากรที่มีความสามารถซึ่งไม่เพียงแต่มีทักษะเท่านั้น แต่ยังสอดคล้องกับค่านิยมของบริษัทอีกด้วย บริษัทต้องการพนักงานที่ไม่เพียงแต่เข้าร่วมงานในปัจจุบันเท่านั้น แต่ยังพร้อมที่จะเติบโตไปด้วยกันในระยะยาว เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ด้วยแบรนด์นายจ้างที่แข็งแกร่ง ไทยออยล์สามารถดึงดูดบุคลากรชั้นนำที่มีวิสัยทัศน์และค่านิยมเดียวกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะนำไปสู่ความสำเร็จในระยะยาว

  3. โชว์ศักยภาพสำนักงานไทยออยล์ศรีราชา

    ที่ตั้งของไทยออยล์ศรีราชาเป็นศูนย์กลั่นน้ำมันหลักของบริษัท และมีสภาพแวดล้อมการทำงานที่ทันสมัยและยืดหยุ่น ซึ่งพนักงานสามารถเติบโตในอาชีพการงานได้ ไทยออยล์ต้องการนำเสนอสำนักงานแห่งนี้ให้เป็นมากกว่าสถานที่อุตสาหกรรม แต่เป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้ทั้งในด้านอาชีพและส่วนตัว โดยสร้างสมดุลระหว่างวิถีชีวิตที่สงบสุขกับการทำงานที่มีความหมาย

การได้รับข้อมูลเชิงลึกผ่านผลสำรวจ '' Best Places to Work™ ''

ไทยออยล์ร่วมมือกับ WorkVenture เพื่อสำรวจความพึงพอใจของพนักงานซึ่งส่งผลให้ได้รับคะแนนที่น่าประทับใจจนได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ Best Places to Work การรับรองนี้ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความมุ่งมั่นของบริษัทในการสร้างสถานที่ทำงานที่สนับสนุน แต่ยังให้ข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับจุดแข็งและโอกาสสำหรับการเติบโตในอนาคต ข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ช่วยให้ไทยออยล์สามารถปรับกลยุทธ์ให้สอดคล้องกับความต้องการและความคาดหวังของพนักงาน ทำให้มั่นใจได้ว่าทั้งพนักงานออฟฟิศและพนักงานปฏิบัติการจะได้รับประสบการณ์ในสภาพแวดล้อมที่ครอบคลุมและเติมเต็ม

ประเด็นสำคัญจากการสำรวจครั้งนี้คือพนักงานรู้สึกว่าเสียงของพวกเขาได้รับการรับฟังและมีคุณค่า ความมุ่งมั่นของไทยออยล์ในการส่งเสริมวัฒนธรรมการทำงานที่เปิดกว้างและสนับสนุนซึ่งกันและกันทำให้พนักงานทุกระดับรู้สึกภาคภูมิใจและมีความสุข

ผลลัพธ์การรับรองเป็น Best Places to Work 

การที่สยามกลการได้รับการรับรอง "Best Places to Work™" นั้น ไม่ใช่แค่รางวัล แต่เป็นการแสดงให้เห็นถึงการใส่ใจในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดีและผลลัพธ์ที่ได้นั้นดีต่อทั้งบริษัทและพนักงาน:

  1. ทำความเข้าใจความต้องการของพนักงานและปรับแต่งกลยุทธ์ได้ตรงจุด:

    ด้วย Best Places to Work การรับรองนี้ช่วยให้ได้รับข้อมูลเชิงลึกอันมีค่าเกี่ยวกับความพึงพอใจ การมีส่วนร่วม และการเติบโตในอาชีพของพนักงาน ข้อมูลนี้ช่วยให้ไทยออยล์ปรับปรุงกลยุทธ์เพื่อตอบสนองความต้องการของพนักงาน ส่งเสริมสภาพแวดล้อมการทำงานที่สนับสนุนซึ่งช่วยเสริมการพัฒนาทักษะ ความก้าวหน้าในอาชีพ และการสื่อสารในทีม

  2. การดึงดูดผู้มีความสามารถที่พร้อมสำหรับการเติบโต:

    การรับรองดังกล่าวยังช่วยส่งเสริมให้ไทยออยล์ดึงดูดพนักงานที่มีศักยภาพได้มากขึ้น โดยทำให้บริษัทเป็นสถานที่ที่น่าทำงานมากที่สุด ซึ่งช่วยให้ดึงดูดบุคลากรที่มีทักษะสอดคล้องกับวัฒนธรรมและวิสัยทัศน์ของบริษัทได้ ซึ่งจะทำให้เติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

  3. พลิกโฉมไทยออยล์ศรีราชาสู่สถานที่ทำงานแห่งความภาคภูมิใจ

    การยกย่องดังกล่าวยังช่วยแสดงให้เห็นว่าศรีราชาซึ่งเป็นศูนย์กลางการดำเนินงานของไทยออยล์เป็นสถานที่ทำงานที่ทันสมัยและน่าดึงดูดซึ่งส่งเสริมความสมดุลระหว่างชีวิตและการทำงาน ปัจจุบันสำนักงานศรีราชาไม่เพียงแต่ถูกมองว่าเป็นพื้นที่อุตสาหกรรมเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่ที่พนักงานสามารถเติบโตได้ทั้งในอาชีพการงานและชีวิตส่วนตัว ด้วยการเน้นย้ำถึงการเปลี่ยนแปลงนี้ ไทยออยล์จึงไม่เพียงแต่ดึงดูดผู้มีความสามารถใหม่ๆ เท่านั้น แต่ยังเสริมสร้างความภาคภูมิใจของพนักงานที่ทำงานในสภาพแวดล้อมดังกล่าวอีกด้วย

    ด้วยความมุ่งมั่นในเรื่องความเท่าเทียมและการมีส่วนร่วม ไทยออยล์รับรองว่าพนักงานทุกคนรู้สึกมีคุณค่าและเป็นส่วนสำคัญของความสำเร็จของบริษัท


ด้วยแนวคิด 'Your Value, Our Priority' ไทยออยล์แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาพนักงาน สร้างความผูกพัน และรักษาสภาพแวดล้อมการทำงานที่พนักงานภาคภูมิใจ ซึ่งนี่คือเครื่องชี้วัดความสำเร็จที่แท้จริงของไทยออยล์—การเติบโตอย่างยั่งยืนที่ขับเคลื่อนโดยพนักงานของบริษัท

พร้อมที่จะได้รับการรับรองและยกระดับแบรนด์นายจ้างของคุณไปอีกขั้นแล้วหรือยัง?

ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้น

อ่านเพิ่มเติม
ผู้ใช้ที่เป็นแขก ผู้ใช้ที่เป็นแขก

Case Study: ก้าวสู่ความเป็นเลิศของตัวคุณไปอีกขั้นกับ RS Group

จุดเริ่มต้น

RS Group ได้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำธุรกิจสื่อบันเทิงของประเทศไทย ด้วยทีมงานคุณภาพและความสามารถที่โดดเด่น ปัจจุบันบริษัทได้ขยายธุรกิจไปไกลกว่าด้านบันเทิง โดยนำนวัตกรรม “Entertainmerce” มาใช้ ซึ่งผสานสองภาคธุรกิจหลัก ได้แก่ ความบันเทิง (Entertainment) และพาณิชย์ (Commerce) เข้าด้วยกัน

RS Group ได้ร่วมมือกับ WorkVenture เพื่อเจาะลึกถึงมุมมองและแนวคิดของทีมงานในปัจจุบัน พร้อมวางกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับโครงสร้างองค์กรที่เปลี่ยนแปลงไป


อุปสรรคและความท้าทาย

เพื่อให้บรรลุความสำเร็จ RS Group จำเป็นต้องรับมือกับความท้าทายที่สำคัญหลายประการ ได้แก่

  1. การจัดการธุรกิจที่หลากหลาย:

    • RS Group มีโอกาสในการบริหารและพัฒนาบุคลากรที่มีความหลากหลาย เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับธุรกิจในหลายด้าน

    • ด้วยการขยายธุรกิจสู่หลากหลายอุตสาหกรรม การเสริมสร้างความเข้าใจเชิงลึกในแต่ละธุรกิจจึงเป็นสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนองค์กรไปข้างหน้า

  2. เสริมสร้างประสิทธิภาพในการสื่อสารองค์กร

    • RS Group ให้ความสำคัญกับการสร้างช่องทางสื่อสารที่เปิดกว้าง เพื่อให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นและมีส่วนร่วมในการพัฒนาองค์กร ซึ่งจะช่วยเสริมสร้างการทำงานที่มีประสิทธิภาพและส่งเสริมวัฒนธรรมองค์กรที่แข็งแกร่ง

  3. ดึงดูดคนทำงานที่มีความสามารถ:

    • ถึงแม้จะมีการรีแบรนด์ครั้งใหญ่ แต่ RS Group ก็ยังต้องรับมือกับความท้าทายในการดึงดูดพนักงานเก่งๆ ที่สอดคล้องกับค่านิยมและความต้องการของบริษัท


ก้าวแรกของความสำเร็จผ่าน ''Best Places to Work™''

WorkVenture ได้ดำเนินการสำรวจ ความพึงพอใจของพนักงานผ่านโปรแกรม Best Places to Work กับอาร์เอส กรุ๊ปครอบคลุมพนักงานทั้งหมดในหน่วยธุรกิจต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจประสิทธิภาพของแบรนด์นายจ้างใน 4 ด้านหลักและ 26 ปัจจัยขับเคลื่อนอาร์เอส ได้คะแนนสูงโดยเฉพาะในด้านวัฒนธรรมองค์กรที่พวกเขาได้สร้างขึ้นและได้รับการยอมรับให้เป็นหนึ่งใน "Best Places to Work™" จากผลการสำรวจ - ซึ่งสะท้อนถึงสภาพแวดล้อมการทำงานเชิงบวกการสำรวจนี้วัดความพึงพอใจและความสุข ซึ่งให้ข้อมูลที่มีค่าเกี่ยวกับจุดแข็งและด้านที่ควรปรับปรุง

RS Group ได้อะไรหลังจากได้การรับรองเป็น Best Places to Work?

ได้รับการรับรองให้เป็นหนึ่งใน Best Places to Work™ มีประโยชน์หลายอย่างกับ อาร์เอส กรุ๊ป:

  1. พัฒนาการจัดการแต่ละแผนก

    • ผลการสํารวจความพึงพอใจของพนักงานช่วยให้ RS Group สามารถจัดระเบียบของธุรกิจต่างๆได้ดีขึ้น ผ่านความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับความแตกต่าง

    • บริษัทสามารถแก้ไขปัญหาภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนาบุคลากรได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

  2. เข้าใจในความหลากหลาย:

    • อาร์เอส กรุ๊ปได้เข้าใจถึงความสำคัญของการให้ความสนใจกับกลุ่มพนักงานที่มีความหลากหลายเพื่อทำความเข้าใจในความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่ม และส่งเสริมความหลากหลายในองค์กรอย่างยั่งยืน

  3. ดึงดูดคนทำงานที่มีความสามารถ:

    • การรับรองจาก WorkVenture ทําให้ง่ายต่อการดึงดูดบุคคลากรที่มีความสามารถ กับบทบาทที่เปิดกว้าง

    • การแสดงค่านิยมขององค์กรที่ชัดเจนยิ่งขึ้น RS Group กําลังดึงผู้มีความสามารถ ไม่เพียงแต่จากอุตสาหกรรมบันเทิงเท่านั้น แต่มาจากหลากหลายสาขา

ความมุ่งมั่นของ RS Group ต่อค่านิยมองค์กรที่ว่า "Own, Fight, Learn & Win Together" เป็นเครื่องมือสําคัญในความสําเร็จ ด้วยการรับมือกับความท้าทายโดยตรงและใช้ประโยชน์จากจุดแข็ง อาร์เอส กรุ๊ป ยังคงเป็นผู้นำในวงการความบันเทิงและการพาณิชย์โดยการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่เต็มไปด้วยพลังบวกและโอกาสในการเติบโตสำหรับพนักงาน


พร้อมที่จะได้รับการรับรองและยกระดับแบรนด์นายจ้างของคุณไปอีกขั้นแล้วหรือยัง?

ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้น

อ่านเพิ่มเติม
ผู้ใช้ที่เป็นแขก ผู้ใช้ที่เป็นแขก

Case Study: สหพัฒน์ ก้าวข้ามสู่ความเป็นเลิศ

จุดเริ่มต้น

สหพัฒน์ ผู้นำธุรกิจที่มีประสบการณ์ยาวนานกว่า 80 ปีในประเทศไทย ด้วยเครือข่ายศูนย์กระจายสินค้าทั่วประเทศ 76 แห่ง บริษัทมีการสร้างสรรค์สภาพแวดล้อมที่หลากหลายและเต็มไปด้วยความสามารถ พร้อมสนับสนุนวัฒนธรรมการทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ


สหพัฒน์ ซึ่งเป็นที่รู้จักจากประวัติการดำเนินงานที่ยาวนาน กำลังมุ่งมั่นในการพัฒนาและยกระดับสภาพแวดล้อมในการทำงานอย่างต่อเนื่อง โดยการประเมินความพึงพอใจของพนักงานอย่างรอบด้าน เพื่อสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่ดีและมีส่วนร่วม

ความท้าทายที่พวกเขาเผชิญ:

  • มุ่งมั่นที่จะเชื่อมช่องว่างระหว่างรุ่นผ่านการสร้างวัฒนธรรม: สหพัฒน์มองเห็นโอกาสในการเชื่อมช่องว่างระหว่างรุ่นเพื่อเข้าใจสภาพจิตใจของพนักงานได้ดียิ่งขึ้น ส่งเสริมความเป็นหนึ่งเดียวและความพึงพอใจในกลุ่มพนักงานที่มีความหลากหลาย.

  • โอกาสในการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทํางาน: ด้วยการให้พนักงานจากทุกรุ่นมีส่วนร่วมในข้อเสนอแนะ Sahapat มีเป้าหมายที่จะสร้างสภาพแวดล้อมการทํางานที่ครอบคลุมและสร้างสรรค์มากขึ้นขับเคลื่อนความสําเร็จสําหรับทุกคน

  • ศักยภาพในการเสริมสร้างชื่อเสียงและการดึงดูดบุคลากร:โดยการให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของพนักงานผ่านการสำรวจ สพัฒน์มีศักยภาพในการเสริมสร้างชื่อเสียงของบริษัท ซึ่งจะทำให้บริษัทดึงดูดบุคลากรชั้นนำในตลาดงานที่มีการแข่งขันสูงได้มากขึ้น

เจาะลึกเบื้องหลังบรรยากาศขององค์กรชั้นนำ ผ่านรางวัล "Best Places to Work"

สหพัฒน์ได้ทำการสำรวจความคิดเห็นของพนักงานเป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งเปิดพื้นที่ใหม่ในการสำรวจความพึงพอใจของพนักงาน ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้เกินความคาดหมาย สหพัฒน์ได้รับคะแนนสูงและได้รับการรับรองจาก ‘Best Places to Work’ ที่มีชื่อเสียงเป็นการยืนยันถึงความสำเร็จในด้านการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี

แต่นอกเหนือจากการรับรู้เพียงอย่างเดียว WorkVenture นําเสนอข้อมูลเชิงลึกอันล้ำาค่า ขับเคลื่อน Sahapat ไปสู่การปรับปรุงเพิ่มเติมเพื่อรักษาพนักงานและดึงดูดผู้มีความสามารถระดับสูง ช่วงเวลาสําคัญนี้ส่งสัญญาณการเริ่มต้นใหม่ จุดประกายการเดินทางแห่งการเปลี่ยนแปลง และตอกย้ำาการอุทิศตนเพื่อความเป็นเลิศของ Sahapat

ในอดีต สหพัฒน์เคยถูกมองข้ามโดยผู้หางานรุ่นใหม่ แต่เรื่องราวของสหพัฒน์ได้เปลี่ยนแปลงไปเมื่อได้รับการรับรอง "Best Places to Work" ปัจจุบัน สหพัฒน์ภาคภูมิใจที่ได้เป็นหนึ่งในห้าบริษัทชั้นนำที่มืออาชีพรุ่นใหม่ต้องการเข้าร่วมในอุตสาหกรรม FMCG และไม่ใช่เพียงคำกล่าวอ้างเท่านั้น—แรงงานที่หลากหลายของสหพัฒน์ ซึ่งครอบคลุมหลายรุ่น กำลังสร้างความสำเร็จ ด้วยการใช้ประโยชน์จากการสำรวจผ่านโครงการ Best Places to Work สหพัฒน์สามารถค้นพบข้อมูลเชิงลึกที่มีค่าอย่างยิ่ง

สหพัฒน์ ได้อะไรหลังจากได้รับการรับรองเป็น Best Places to Work?

การได้รับการรับรองเป็น 'Best Places to Work' เป็นมากกว่าการยอมรับทั่วไป มันสะท้อนถึงการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์ที่สร้างประโยชน์ยาวนานให้กับสหพัฒน์ โดยไม่เพียงแค่การมีป้ายรับรอง แต่ยังช่วยเสริมสร้างภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของบริษัทในตลาดแรงงานอีกด้วย

  1. มุ่งมั่นที่จะลดช่องว่างระหว่างรุ่นผ่านวัฒนธรรมหรือบรรทัดฐานที่เป็นหนึ่งเดียว: การเชื่อมช่องว่างระหว่างวัยและการทำความเข้าใจเกี่ยวกับพนักงาน จะช่วยให้สหพัฒน์สามารถสร้างทีมงานที่มีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นและมีความพึงพอใจในงานมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะนำไปสู่การรักษาพนักงานที่มีประสิทธิภาพ ผลผลิตที่สูงขึ้น และความรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวในทีมที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

  2. ปรับปรุงสภาพแวดล้อมการทํางานและนวัตกรรม: การเปิดโอกาสให้พนักงานจากทุกช่วงวัยมีส่วนร่วมในการให้ความคิดเห็น จะช่วยสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีความหลากหลายและเต็มไปด้วยนวัตกรรมที่สหพัฒน์ ซึ่งจะส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ การทำงานร่วมกัน และวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ทั้งนี้จะนำไปสู่ความสำเร็จและการเติบโตในระยะยาว

  3. การเสริมสร้างภาพลักษณ์ของบริษัทและการดึงดูดบุคลากรที่มีคุณภาพ:การให้ความสำคัญกับความพึงพอใจของพนักงานผ่านการสำรวจ จะช่วยยกระดับชื่อเสียงของสหพัฒน์ให้เป็นนายจ้างที่ได้รับความนิยม ซึ่งจะดึงดูดบุคลากรมากความสามารถในตลาดงานที่มีการแข่งขันสูง ลดต้นทุนในการหมุนเวียนพนักงาน และเสริมสร้างตำแหน่งของสหพัฒน์ให้เป็นผู้นำในการสรรหาและรักษาบุคลากร

สหพัฒน์ประสบความสำเร็จอย่างน่าประทับใจใ ด้วยการได้รับการรับรองให้เป็น “Best Places to Work” โดยมีคะแนนสูงกว่า 60% แม้จะต้องเผชิญกับความท้าทายจากความหลากหลายของพนักงาน ข้อมูลที่ได้รับจากการสำรวจช่วยให้สหพัฒน์เข้าใจถึงความต้องการของพนักงานและสามารถหาจุดที่ต้องปรับปรุงได้ ซึ่งจะนำไปสู่การพัฒนาสภาพแวดล้อมการทำงานให้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้เกิดความพึงพอใจและความสำเร็จขององค์กรในอนาคต

ฟังจากทีมงานสหพัฒน์

"บรรยากาศการทํางานเป็นเหมือนครอบครัว ที่ผู้จัดการ ผู้อาวุโส พนักงานที่ทํางานมานาน หรือแม้แต่ผู้มาใหม่สามารถทํางานร่วมกันเป็นพี่น้องได้ เป็นการผสมผสานระหว่างประสบการณ์และเทคโนโลยี โดยผสมผสานคุณค่าดั้งเดิมเข้ากับความทันสมัย "
— ชัยลดา ตันติเวชกุล รองกรรมการผู้จัดการใหญ่
อ่านเพิ่มเติม
ผู้ใช้ที่เป็นแขก ผู้ใช้ที่เป็นแขก

Case Study: Seven Peaks จากความยอดเยี่ยมสู่ความเป็นเลิศ


กรณีศึกษาการนำ Best Places to Work ในประเทศไทยไปใช้กับ Seven Peaks: การเดินทางจากความยอดเยี่ยมสู่ความเป็นเลิศ

รับฟังพอดแคสต์ของเราเกี่ยวกับกระบวนการรับรอง Seven Peaks เพื่อรับข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม:

จุดเริ่มต้น

Seven Peaks ไม่ใช่แค่บริษัทพัฒนาซอฟต์แวร์ทั่วไป แต่เป็นศูนย์รวมแห่งนวัตกรรมและความหลากหลาย ด้วยทีมงานที่มีความหลากหลายมากกว่า 200 คนจาก 25 ประเทศ Seven Peaks จึงเป็นผู้นำในการเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลในประเทศไทยและทั่วโลก

การเอาชนะความท้าทายบนเส้นทางสู่ความสำเร็จ

  • การยอมรับความหลากหลายภายในองค์กรสร้างความจำเป็นในการเข้าใจวัฒนธรรมและกลุ่มอายุที่แตกต่างกันอย่างลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น

  • บริษัทเผชิญกับความยากลำบากในการดึงดูดผู้สมัครที่มีคุณสมบัติด้านไอทีในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ซึ่งกระตุ้นให้พวกเขาค้นหาวิธีการใหม่ๆ เพื่อปรับปรุงกระบวนการสรรหาบุคลากร

  • บริษัทมั่นใจในทิศทางของ Employer Branding ที่พวกเขาทําและไม่ว่าจะมีประสิทธิภาพหรือไม่เนื่องจากพวกเขา ไม่มีความชัดเจนเกี่ยวกับจุดแข็งหลักและกลยุทธ์การสื่อสาร

เจาะลึกเบื้องหลังบรรยากาศขององค์กรชั้นนำ ผ่านรางวัล "Best Places to Work"

Seven Peaks เลือกที่จะเข้าร่วมการเป็นองค์กรที่รับรองการเป็น 'Best Places to Work' ซึ่งเป็นการตัดสินใจเชิงกลยุทธ์เพื่อไม่เพียงแต่ระบุจุดแข็งของพวกเขาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการหาจุดที่ต้องปรับปรุงด้วย ด้วยความร่วมมือกับ WorkVenture, Seven Peaks ได้เริ่มต้นการสำรวจเป็นเวลา 2 สัปดาห์ โดยเจาะลึกลงไปในโครงสร้างขององค์กร ผลลัพธ์ที่ได้? มากกว่าเพียงแค่การได้รับการรับรองว่าเป็น 'Best Places to Work'

WorkVenture ได้ให้ข้อมูลเชิงลึกที่ปรับให้เหมาะสมกับแต่ละแผนก หน่วยงาน และกลุ่มอายุภายใน Seven Peaks โดยข้อมูลเหล่านี้ไม่ใช่เพียงแค่ข้อมูลเท่านั้น แต่ยังเป็นแผนที่สำหรับการปรับปรุง แสดงให้เห็นถึงจุดแข็งที่ควรรักษาไว้และจุดอ่อนที่ต้องเปลี่ยนแปลง


"พนักงานของเราเป็นทรัพย์สินที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเรา เราเชื่อมั่นในการลงทุนในพนักงานของเราเพื่อสร้าง บริษัท ที่ยอดเยี่ยมสําหรับพนักงานของเราและเพื่อให้สามารถส่งมอบคุณภาพและบริการที่ดีสําหรับลูกค้าของเรา "
— Jostein Aksnes ซีอีโอ

Seven Peaks ได้อะไรหลังจากได้รับการรับรองเป็น Best Places to Work?

การรับรองเป็น 'Best Places to Work' ไม่ใช่แค่การรับรู้เท่านั้น แต่เป็นการเคลื่อนไหวเชิงกลยุทธ์ที่เก็บเกี่ยวผลประโยชน์มากมายสําหรับ Seven Peaks ซึ่งสะท้อนไปไกลกว่าแผ่นป้ายรับรองที่แขวนอยู่บนผนัง

  • เพิ่มการมีส่วนร่วมของพนักงาน: เมื่อการมีส่วนร่วมเพิ่มขึ้น ความมุ่งมั่นและแรงจูงใจในหมู่พนักงานของ Seven Peaks ก็เช่นกัน ความพึงพอใจในงานเพิ่มขึ้นเสริมสร้างความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานโดยรวม สถานที่ทํางานเปลี่ยนจากผู้ให้บริการเช็คเงินเดือนเพียงอย่างเดียวไปสู่แหล่งที่มาของความภาคภูมิใจซึ่งพนักงานไม่เพียง แต่ให้ความสําคัญกับรางวัลทางการเงินเท่านั้น แต่ยังรวมถึงสภาพแวดล้อมที่สนับสนุนโดย Seven Peaks

  • เพิ่มผลผลิตและชื่อเสียง: ด้วยพนักงานที่เฟื่องฟูทําให้สุขภาพจิตดีขึ้นและการปรับปรุงประสิทธิภาพที่ตามมา การทํางานร่วมกันและนวัตกรรมเฟื่องฟู ปลูกฝังวัฒนธรรมการผลิตทั่วทั้งบริษัท นอกจากนี้ Seven Peaks ยังได้รับชื่อเสียงในเชิงบวก โดยดึงดูดทั้งลูกค้าและผู้มีความสามารถระดับสูงที่กระตือรือร้นที่จะเข้าร่วมสถานที่ทํางานที่มีพลวัตและประสบความสําเร็จ

  • ความสนใจที่เพิ่มขึ้นจากผู้สมัครด้านไอที: การได้รับการรับรองว่าเป็น 'Best Place to Work' ทําให้ Seven Peaks แตกต่างในฐานะนายจ้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งดึงดูดมืออาชีพรุ่นใหม่ และ นอกเหนือจากเงินเดือนที่สูงแล้วผู้สมัครยังแสวงหาสถานที่ทํางานที่ให้ความสําคัญกับความสัมพันธ์และสภาพแวดล้อมเชิงบวก ทั้งนี้การรับรองนี้ทําให้ Seven Peaks เป็นจุดหมายปลายทางที่ดีที่สุดสําหรับผู้ที่กําลังมองหาอาชีพที่เติมเต็มความต้องการของสายงานด้านไอทีส่งผลให้มีผู้สมัครด้านไอทีเพิ่มขึ้น

โดยพื้นฐานแล้วประโยชน์ของการรับรองอยู่เหนือการยอมรับเพียงอย่างเดียว พวกเขาได้รับประโยชน์ในฐานะพนักงานที่มีพลวัตมีส่วนร่วมและแข่งขันได้ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่ขับเคลื่อน Seven Peaks ไปสู่ความสําเร็จที่ยั่งยืนในภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของอุตสาหกรรมเทคโนโลยี

"การเป็นเพียงนายจ้างไม่เพียงพอสิ่งสําคัญคือต้องสามารถจัดหาสถานที่ทํางานที่ทีมของเรารู้สึกเป็นเจ้าของและตามลําดับในขณะที่ยังคงให้เส้นทางอาชีพเพื่อพัฒนาการเติบโตต่อไป "
— Jostein Aksnes ซีอีโอ

ฟังจากทีม Seven Peaks

"ความหลากหลายของเราทําให้เราได้เปรียบอย่างมากในการช่วยให้เราสามารถสร้างบริษัทที่เราสามารถจัดหาสถานที่ทํางานที่ยอดเยี่ยมสําหรับทุกคน "
— Jostein Aksnes ซีอีโอ

Seven Peaks ใช้ประโยชน์จากการรับรอง Best Places to Work ในการทำการตลาดการสรรหาบุคลากรทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์

พร้อมที่จะได้รับการรับรองและยกระดับแบรนด์นายจ้างของคุณไปอีกขั้นแล้วหรือยัง? ติดต่อเราเพื่อเริ่มต้น

อ่านเพิ่มเติม